...หนีก็ตาย สู้ก็ตาย สู้เถอะ ยังมีศักดิ์ศรี ยังมีโอกาสรอด !...

เคยสังเกตกันหรือไม่ ทุกครั้ง ถ้าหาก สส.หรือ สว. หรือฝ่ายสนับสนุนข้างพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องใดๆให้ “องค์กรอิสระ” ตรวจสอบกับฝ่ายพรรคเพื่อไทยละก็ อภิมหาความหวาดเสียว จะเกิดขึ้นกับฝ่ายเพื่อไทยทันที ร้อนๆหนาวๆกันไปหมด เช่น คดี 30 ล้านบาทของนายกฯปู..เพราะอะไร ?

แต่ทุกครั้ง ถ้า สส.หรือ สว.หรือฝ่ายสนับสนุนข้างพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้“องค์กรอิสระ” ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ในทำนองเดียวกันบ้าง ดูเหมือนแทบจะไม่มีปฏิกิริยาใดเลย ไร้อารมณ์ลุ้น ประเภทมีความรู้สึกว่ายื่นไปงั้นๆ ไม่ได้หวังผล เพราะรู้คำตอบว่าจะออกอย่างไร เช่น คดี ปรส. ที่ยื่นให้ ปปช.ตรวจสอบ ..จริงมั๊ย ?

“องค์กรไต้ติ่งของประเทศ”เหล่านี้ ล้วนถูกตั้งขึ้นมาจาก คมช.และรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 หรือรัฐธรรมนูญฉบับ “มีวันนี้ เพราะพี่ให้” จึงพยายามอย่างหนักที่จะปกป้องตัวเอง และทำลายพรรคเพื่อไทยซึ่งต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับ โดยอาศัยตีความ ทุกช่องว่าง และรอยโหว่ของกฏหมาย..รู้ๆกันอยู่ !

และผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า หากองค์กรอิสระเหล่านี้ ปฏิบัติกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกข้างแล้ว  แม้จะมาจาก คมช.หรือต้นไม่พิษ ผมก็ยอมรับได้..เพราะถือว่ายุติธรรม !


แต่นี่ พ่อคุณทั้งหลาย เล่นรุมกินโต๊ะ จองกฐิน ทอดผ้าป่ากับพรรคเพื่อไทยอยู่พรรคเดียว ส่วนประชาธิปัตย์นั้น ลอยหน้าลอยตา ลอยนวลกวนส้นเท้า ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ไม่เป็นไร พวกท่านไม่เห็น ไม่รู้ หลับหูหลับตากันไป เช่นเดียวกับคดีของหม่อมสุขุมพันธุ์ ที่ถูกยื่นคัดค้านไม่รู้กี่คดี พวกท่านก็บอกหน้าตาเฉยว่า “ตรวจสอบไม่ทัน รับรองไปก่อน”..เวรกรรม !

ความรู้สึกนี้ มันฝังใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ เรื่อง “ความไม่เป็นกลางขององค์กรอิสระ” นับตั้งแต่การปฏิวัติมาแล้ว จึงต้องการทำทุกอย่างให้ยุติธรรม มีนิติธรรม ปลดแอกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกไป..เอาไปทิ้งทะเล !

เห็นชัดๆอีกครา เมื่อวาน (2 เมษา) มีผู้ไปยื่นร้องคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราและขอยุบพรรคเพื่อไทย ที่ศาลรัฐธรรมนูญ “องค์กรอิสระ” แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ต่อมขยันของ ตลก.ทำงานทันที สั่งรีบประชุมด่วน เพื่อถกคำร้องของ สว. เขย่าขวัญเพื่อไทย..อยู่หรือไป ?

ความรู้สึกว่าถูกปฏิบัติโดยไม่เป็นกลาง ไม่เท่าเทียมกัน ก็ผุดขึ้นมาในใจของคนส่วนใหญ่ทันที “เอาอีกแล้วเว้ยยย ..มันเอาอีกแล้ว” เพราะตลอดเวลา7 ปี ถูกยุบพรรค 2 ครั้ง ถูกตัดสินให้ขาดสมาชิกภาพ สส.นับไม่ถ้วน ตัดสินจำคุกนับไม่หวาดไม่ไหว ถูกยกคำร้องแทบทุกกรณี ..เล่นอยู่ข้างเดียว !

ดังนั้น เมื่อทนไม่ไหว นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ สส.พรรคเพื่อไทย โพสท์ในเฟสบุคว่า “บ่องตง! ผมเชื่อมั่นด้วยหลักการทั้งมวลว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราหรือแก้ทั้งฉบับทำได้ ไม่ขัดรธน.ไม่ล้มล้างการปกครอง ถ้าวันนี้ตลก.รธน.รับเรื่องและคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้เดินต่อ ส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะใช้เอกสิทธิ์เสนอโหวตวาระ 3 ที่ค้างไว้อยู่ทันที สภานี้เป็นของประชาชนอำนาจหน้าที่ในการสถาปนากฎหมาย ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมาแทรก” ..หึหึหึ

นายนิยม เวชกามา สส.สกลนคร ทนไม่ไหว กล่าวว่า “แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สั่งให้ระงับการแก้ไขไว้ก่อน ก็ให้เอารัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ค้างวาระ 3 อยู่มาลงมติวัดกันไปเลย เพราะวันนี้เลือดเข้าตาแล้ว” ..นั่นซิ

นายจตุพร เจริญเชื้อ สส.ขอนแก่น ก็ทนไม่ไหว กล่าวว่า "รู้สึกแปลกใจมากที่กระบวนการรับคำร้องที่ กลุ่ม 40 ส.ว.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจ เมื่อเทียบกับกรณีการยื่นคำร้องคัดค้านการชุมนุมของกลุ่ม พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ที่ใช้เวลาตรวจสอบเอกสารหลายวัน ในที่สุดก็ยกคำร้อง” ..เห็นมั๊ย ?

ส่วนนายดิเรก ถึงฝั่ง สว.นนทบรี ก็เริ่มทนไม่ไหวเหมือนกัน ทำนายว่า “เชื่อว่า ฝ่ายตุลาการจะไม่เข้ามาก้าวก่ายงานของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญกระทำในสิ่งที่ตรงข้าม จะเป็นไปอย่างที่ตนเคยวิเคราะห์ว่าจะเป็นการสร้างเงื่อนไขใหม่ ที่นำไปสู่ความขัดแย้งและนองเลือด” ..เริ่มเห็นเค้าลาง !


หากสถานการณ์ต้องเป็นไปอย่างที่คาด คือศาลฯรับเรื่อง ก็เท่ากับศาลฯนี้ “กร่าง” มีอำนาจปกครองประเทศ คงจะยอมไม่ได้ ฉะนั้น สส.เพื่อไทย ต้องหยิบร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 291 ที่ค้างสภาในวาระที่ 3 เอามาโหวตให้สิ้นเรื่องสิ้นราว..เป็นไงเป็นกัน !

ผมคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ ก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อหนีก็ตาย สู้ก็ตาย เพราะเขาตั้งใจจะฆ่าอยู่แล้ว ผมว่าสู้เถอะ เพราะยังมีโอกาสรอด ถึงแม้สู้แล้ว อาจต้องตาย แต่ก็ตายอย่างนี้ศักดิ์ศรี และยังฝากรอยแผลให้ศัตรูได้เก็บไว้เป็นที่ระลึกบ้างไม่ใช่ตายเหมือนห ม า..ถูกฆ่าริมถนน !!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่